
ฮวงจุ้ย นั้นก็เปรียบเสมือนกับตัวแปรคลื่นและกระแสต่างๆ รอบๆตัวที่ส่งผลรอบตัวเราซึ่งก็จะประกอบไปด้วยองค์ประกอบที่สำคัญดังนี้
1. กระแสต่าง ๆ (พลังงาน) ลม,น้ำ,ทิศทาง
2. เวลา
3. สถานที่
ซึ่งตัวเรานั้นจะแปรผันไปต่อองค์ประกอบนี้ทั้งหมด เพราะฉะนั้นตัวเราถึงแม้จะมีความสามารถแค่ไหน เก่งแค่ไหน แต่ถ้าไม่ได้ฮวงจุ้ยเกื้อหนุนก็อาจจะไม่สมหวังได้ในบางสิ่ง แต่ถ้าเราดำเนินชีวิตให้สอดคล้องกับหลักของธรรมชาติแล้วนั้น โอกาสหรือสิ่งต่าง ๆ ที่เราคาดหวังไว้ ก็จะประสบผลสำเร็จและมีความชัดเจนมากขึ้น และรวดเร็วยิ่งขึ้น
“มนุษย์เรานั้นไม่ควรที่จะไม่รู้เรื่องฮวงจุ้ย” และ “ไม่ควรที่จะขัดกับหลักของธรรมชาติ”
ซึ่งที่อยู่อาศัยและสิ่งปลูกสร้างเมื่อร้อยกว่าปีที่แล้ว ล้วนแต่ทำมาจากหิน ไม้ ปูน ทราย แต่ส่วนใหญ่ก็จะสอดคล้องกับธรรมชาติเป็นหลักซึ่งจะประกอบไปด้วย ทิศทางลม แสงแดด น้ำ รวมไปถึงองค์ประกอบและประเภทของพื้นที่การใช้งาน เป็นหลัก ทำให้การก่อสร้างในสมัยก่อนนั้นไม่ซับซ้อนมากนัก นอกจากนั้นยังมี ระบบฮ่องเต้ วัดวาอาราม ศูนย์กลางราชการ บ้านคหบดี ซึ่งทั้งหมดนี้ก็จะให้ความสำคัญกับการวางแบบแปลน และการออกแบบ แผนผังองค์ประกอบทางสถาปัตยกรรม ร่วมกับหลักของธรรมชาติ ก็จะประกอบเป็นหลักของฮวงจุ้ยที่ดีได้อย่างสมบูรณ์
ยุค1900 ถึงยุคปัจจุบันนี้ ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงไปมาก เทคโนโลยีและวิวัฒนาการ วิศวกรรม การออกแบบ การผสมผสานตามวัฒนธรรมใหม่ ๆ มีตึกที่สูงเพิ่มมากขึ้นอย่างรวดเร็ว มีการใช้ลิฟต์ มีระบบไฟฟ้า แอร์ แสงไฟฟ้า ระบบอินเตอร์เน็ต มารองรับ เพราะฉะนั้น ตัวแปรพวกนี้ ก็จะส่งผลได้เร็วขึ้นและรุนแรงขึ้น ซึ่งก็มีทั้งดีและไม่ดี ถ้าไม่สามารถจัดวางให้องค์ประกอบทุกอย่างสมดุลได้นั้น ผลต่าง ๆก็จะเกิดขึ้นตามมาได้ในภายหลัง ซึ่งอาจจะส่งผลที่ดีหรือไม่ดีตามมาก็ได้

หยิน คือ ดวงชะตาของเราทุกคน (先天)
ซึ่งฟ้าได้ลิขิตมาตามวันที่เราเกิด วินาทีแรกที่เราได้หายใจ นั่นคือ ตัวกำหนดดวงเรา และชีวิตของเราส่วนหนึ่งซึ่งจะเปลี่ยนแปลงไม่ได้ แต่ถ้าเราได้เรียนรู้และเข้าใจก็จะทำให้สอดคล้อง และดึงประโยชน์มาใช้ได้อย่างมากมายมหาศาล
หยาง คือ องค์ประกอบรอบ ๆ ตัวเรา (后天)
1. บ้านที่อยู่อาศัย ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญมาเป็นอันดับแรก นั่นก็คือ ชัยภูมิ
2. สถานที่ที่เราใช้เวลารองลงมา เช่น ออฟฟิศ บริษัท โรงงาน ร้านค้า
3. บ้านหลังที่สอง คอนโด บ้านพักตากอากาศ บ้านต่างจังหวัด
4. สิ่งที่เกี่ยวกับบรรพชน บ้านต้นตระกูล สุสานบรรพชน หออัฐิ เจดีย์ที่เก็บกระดูก
5. ชื่อ นามสกุล ชื่อเล่น ชื่อบริษัท ชื่อองค์กร เบอร์โทรศัพท์ เลขทะเบียนรถ บ้านเลขที่
“ถ้าองค์ประกอบสองอย่างนี้เชื่อมต่อกันแล้ว เราก็จะได้รับพลังธรรมชาติที่เกื้อหนุนให้เราดีขึ้นอย่างแน่นอน สุดท้ายแล้วจะทำให้เราไม่ต้องถอยหลังเดินหลงทาง ความเจริญก้าวหน้าจะมาหาอย่างแน่นอน ซึ่งกฎเกณฑ์เหล่านี้จะอยู่ในมือของมันสมองของประเทศได้อย่างยั่งยืนและตลอดไป”
ดวงชะตา คือ ช่วงวินาทีที่เราเกิดก็จะใช้วันเดือนปีเวลากำหนด เรื่องราวต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นต่อไปในชีวิตเราซึ่งเราทุกคนควรจะต้องรู้เพื่อ เป็นเข็มทิศบอกว่าทางข้างหน้าเราจะเจออะไร เราควรจะเดินไปทางซ้ายหรือขวา ข้ามหรือหลบ เมื่อเราเข้าใจแล้ว เราจะไม่เดินหลงทาง สุดท้ายแล้วเส้นชัยหรือเป้าหมายในชีวิตเรานั้นก็จะใกล้และชัดเจนขึ้น เราจะดำเนินชีวิตอย่างเข้าใจและมีความสุขอย่างแท้จริงและสมบูรณ์ที่สุด


บ้าน หรือ เคหะสถานที่ให้เราอยู่ ซึ่งมนุษย์ จะขาดไม่ได้ คือ พลังหยาง นำ้ แสงแดด อากาศ คือ สิ่งที่ต้องมี หลักการนี้ใช้ได้กับคนทุกชนชั้น ทุกประเทศ ทุกวัย คลื่นทั้งสามสิ่งนี้ถ้าเรารู้จักนำไปใช้ให้สอดคล้องก็จะส่งเสริมกับตัวเราอย่างมหาศาล ที่ที่มีอากาศไหลเวียน มีแสงสว่างส่อง คนก็จะคึกคักมีชีวิตชีวา มีพลังแห่งการสร้างสรรค์ก่อกำเนิด ส่วนบ้านที่ไม่มีแสง ไม่มีลม หรืออากาศจากธรรมชาติ คนที่อยู่ในบ้านก็จะค่อยๆน้อยลง สุขภาพร่างกายจะเจ็บป่วยอยู่เสมอ ส่วนสถานที่ที่มีการจัดองค์ประกอบที่ดี และการออกแบบจัดวางพื้นที่ ที่ได้สัดส่วน สี่เหลี่ยม สัดส่วนสมดุลก็จะส่งเสริมความเจริญมั่งคั่ง แต่ความเป็นจริงปัจจุบันเราแทบไม่มีโอกาสได้เลือกสิ่งต่าง ๆเหล่านั้นได้เลย
“บ้านปัจจุบันคนสร้างไม่ได้อยู่ คนอยู่ไม่ได้สร้าง” เหมือนในอดีต นี่คือ จุดที่ละเอียดอ่อนมาก ๆจริง ๆ บางคนโชคดีก็ดีไป แต่ถ้าไปเลือกได้จุดที่ดูดี แต่ฮวงจุ้ยไม่ดีและไม่สอดคล้องกันแล้ว ก็อาจจะส่งผลกระทบกับเราได้ในทางที่ไม่ดี เพราะจุดที่ดี ๆ มักจะโดนคนที่มีฐานะเลือกไปก่อนเสมอ ๆ
ซึ่งดาราดัง ๆ มหาเศรษฐีต่างชาติ บางคนสร้างเงินจากโอกาส การงาน ก็เลยคิดว่าทุกอย่างลงตัวแล้ว ดวงดีทำอะไรก็จะเอาความคิด ความชอบการตัดสินใจส่วนตัวเป็นหลัก สุดท้ายเรามักจะได้เห็น การตายจาก ล้มละลายแบบฉับพลัน การหย่าร้าง ป่วย เพราะขาดความรู้ความเข้าใจในเรื่องของฮวงจุ้ยจากรุ่นก่อน ๆ ความไม่เข้าใจหลักฮวงจุ้ยไม่สอดคล้องหลักธรรมชาติ มีบางตึกกลางใจเมืองที่รกร้างในทำเลดีดีมักจะไม่พ้นกฎหลักเกณฑ์นี้ ซึ่งเราก็อาจจะสังเกตเห็นกันได้อยู่ทั่ว ๆไป

ชัยภูมิ คือการเลือกตำแหน่ง ณ พื้นที่ตรงนั้น เพื่อให้สอดคล้องกับสิ่งต่างรอบ ๆตัวเรา รับพลังให้เชื่อมต่อกับผู้ที่อยู่อาศัย ถ้าชัยภูมิดีแล้วก็จะยิ่งได้เปรียบ ดังคำที่ว่า “ที่ดีมีชัยไปกว่าครึ่ง” ฝรั่ง ชาวจีน ชาวญี่ปุ่น ถึงเข้าใจและเลือกแก่งแย่งก่อสงครามเพื่อให้ได้ยึดครองชัยภูมิที่ดีที่สุด
บ้านดีหรือไม่ดีนั้นให้เราลองตอบโจทย์ได้ด้วยตัวเอง ถ้าเราตั้งใจทำงาน รู้จักวางแผนชีวิต ภายในสามปี มักมีทรัพย์สินเกิดขึ้นได้เสมอ ฮวงจุ้ย + ตัวเราเอง (การทำงาน) +การวางแผนชีวิต = บ้าน รถ ความเจริญ สมาชิกใหม่ ทรัพย์สิน คนช่วยเหลือ มิตรบริวารที่ดี แต่ถ้า สองตัวแปรหลังเราทำด้วยความตั้งใจแล้ว แต่เรายังไม่ได้ดั่งใจ ไม่เห็นผลอะไรเลย การงานก็ยังไม่ดี ไม่ประสบความสำเร็จในชีวิต อยากมีลูกก็ไม่มี งานทำมาสุดท้ายก็หมดไป ต้องลาออก โดนกลั่นแกล้ง โดนหลอก ก็ต้องกลับมาย้อนคิดว่า “ฮวงจุ้ย” อาจเป็นส่วนหนึ่งของปัญหาที่เกิดขึ้น บ้าน ออฟฟิศ ที่เราเกี่ยวข้อง มันต้องมีอะไรที่เราไม่เข้าใจและมีการจัดวางที่ไม่ถูกต้องอย่างแน่นอน
เราจะข้ามผ่านจุดนี้ไปได้อย่างไร ?
เราควรที่จะหาคนที่มีความรู้ ความเชี่ยวชาญทางด้านศาสตร์ฮวงจุ้ยอย่างรอบด้าน และเข้าใจในเรื่องราวอย่างแท้จริงมาแนะนำ ซึ่งจะช่วยหาต้นตอและตอบปัญหาต่าง ๆ ในชีวิตที่เราได้ประสบพบเจอมาได้
อ.ณัฐ ซินแสฮวงจุ้ย
ใส่ความเห็น